ดวงจีนกับสุขภาพ(สรุป1+2+3)



เรียนรู้

- 3หมวด 5ธาตุ คืออะไร
- ดวงจีนมีได้มากที่สุดกี่แบบ
- วันเปลี่ยนสารท
- วันเปลี่ยนสารท(ภาคจบ)
- เรียนรู้ 3หมวด 5ธาตุ
- เรียนรู้คู่สมพงศ์ ชง-ฮะ
- 4 แท่งเหมือน
- ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
- ปุจฉา / วิสัชนา
- ถามมา/ตอบไป
- ดวงจีนกับสุขภาพ(1)
- ดวงจีนกับสุขภาพ(2)
- ดวงจีนกับสุขภาพ(3)
- ดวงจีนกับสุขภาพ(สรุป1+2+3)
- ดวงจีนกับสุขภาพ(4)
- วันขึ้นปีใหม่
- ดวงที่ไม่รู้เวลาเกิด
- เรื่องผัวๆเมียๆ(ตอนที่1)
- เรื่องผัวๆเมียๆ(ตอนที่2)
- นาฬิกาชีวิต
- พืช 5 สี (5 ธาตุ)
- เกร็ดความรู้หยินหยาง

โปรแกรมทำนาย

- ทำนาย: ปีจร - ทำนาย: คู่สมพงศ์ชง-ฮะ
- ทำนาย: การชั่งดวง

Web Link

- tiantek.com - tiantekpro.com

เฮงเฮงเฮง
คำนำ

ในเพจนี้ก็จะเป็นการประมวลความรู้ในเรื่อง"ดวงจีนกับสุขภาพจากทั้ง 3 ตอน"โดยจะมีเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจซึ่งมิได้อยู่ใน 3 ตอนที่ผ่านมาโดยจะขอสรุปเป็นข้อๆ จะเป็นอย่างไรนั้นก็ขอได้โปรดติดตามดูรายละเอียดจากด้านล่างของเพจนะครับ

จากใจ...ศิษย์รุ่นที่ 6 (ก.ค.2558)




1>> เรื่องแรก ขอกล่าวก็คือ ตอนที่ 3 เป็นการทำนายสุขภาพแบบมหภาค หมายถึง เป็นการทำนายอย่างกว้าง ๆ (มิได้มีการจำเพาะเจาะจง) เพียงทราบช่วงเวลากว้าง ๆ เช่น เกิด ปี พ.ศ. 2558 เดือน 寅 หรือ 卯 เป็นต้น

ส่วนตอนที่ 1(สไตล์เทียนเต็ก) และ 2(สไตล์ Raymond Lo) เป็นการทำนายสุขภาพแบบจุลภาค หมายถึง เป็นการทำนายที่มีรูปแบบเฉพาะเจาะจงตามเงื่อนไข,กฎเกณฑ์ของแต่ละสำนัก โดยต้องทราบวัน-เดือน-ปี-เวลาตกฟาก

อย่างไรก็ตาม แบบมหภาคก็มีข้อได้เปรียบเทียบ กรณีที่ท่านไม่ทราบเวลาตกฟาก ท่านก็ยังสามารถประเมินสุขภาพด้วยกฎเกณฑ์จากตอนที่ 3ได้ หรือ บางครั้งไม่ทราบวันที่เกิดแต่ทราบเพียง เกิดเดือนมี.ค.2558(เดือน 卯) ก็ยังประเมินได้(ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย)

ขอสรุปส่งท้าย ก็คือ ท่านควรมองหาจุดเด่นต่าง ๆ ของแต่ละสำนักมาลองศึกษาเปรียบเทียบว่ากฎเกณฑ์ใดที่ท่านคิดว่า แม่นยำ หรือ ความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นแบบจุลภาคหรือ มหภาคก็ตาม

ขอยกตัวอย่างสัก 1 ดวง เช่น เกิดวันที่ 28 ก.พ.2516 เวลา 3:30 น.



จากตัวอย่างดวงข้างต้น จะเห็นว่า เจ้าชะตาดิถีเป็นธาตุไม้อ่อนแอ (ธาตุให้คุณ คือ ไม้-น้ำ-ทอง, ธาตุให้โทษ คือ ไฟ-ดิน)
จะทำนายสุขภาพ ดูธาตุให้โทษก่อนเลยครับ (หากสำนักอื่นมองว่า ธาตุให้โทษ คือ ไฟ-ดิน-ทอง
ท่านก็ต้องพิจารณาทั้ง 3 ธาตุนะครับ) ได้แก่ หัวใจ(ไฟ), ม้าม(ดิน), ปอด(ทอง)

จากการสอบถามพบว่า เจ้าชะตาเริ่มเป็นโรคเบาหวานมาประมาณ 3-4 ปีมานี้ เราจะเห็นว่า เข้ากฎเกณฑ์ของ Raymond Lo คือ ซำเฮ้ง ธาตุดิน(หมายถึง เบาหวาน หรือ มะเร็ง)ได้แก่ 丑, 未, 戌 (ในดวงมี 丑,未 และเพิ่งเข้าสู่วัยจร คือ 戌) ถ้ามีปีจรซึ่งเป็นปี 丑, 未, 戌 ยิ่งต้องระวัง

ตรงนี้ก็เป็นตัวอย่างของการนำเอาจุดเด่นของสำนักอื่นมาพิจารณาร่วมกับดวงอื่น ๆ ที่ท่านจะได้พบเจอจากประสบการณ์ของท่านเองว่า ซำเฮ้งนี้มีความน่าเชื่อถือหรือไม่
ส่วนอวัยวะที่อ่อนแอแต่กำเนิด(ตามลำดับ) หากดูจากตอนที่ 3 จะพบว่ามี "หัวใจ(ไฟ), ไต(น้ำ)และปอด(ทอง)"

จะเห็นว่า การทำนายทั้งแบบจุลภาคและมหภาค บ่งชี้ไปที่หัวใจ(ไฟ) ปัจจุบันเจ้าชะตายังมีชีวิตอยู่ หากวันหนึ่งต้องเสียชีวิตไปด้วยโรคหัวใจ ก็คงจะน่าไม่แปลกใจอะไร

ฉะนั้น หากรู้ว่า ธาตุใดที่ให้โทษ ในแง่สุขภาพ ตัวเราเองก็ควรที่จะ ระวังหรือป้องกันเท่าที่จะทำได้นะครับ

---------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------

2>>เรื่องถัดมา ผมอยากพูดถึงนานแล้ว หลายท่านอาจสงสัย โรคภัยในปัจจุบันมีตั้งมากมาย แต่ในการทำนายสุขภาพ ทำไมจึงพูดถึงแต่ "หัวใจ-ปอด-ตับ-ม้าม-ไต"(มีอยู่แค่นี้อ่ะ...) เหตุผลก็เพราะ คนจีนเชื่อว่า การดูแลรักษาธาตุทั้ง 5 ในร่างกายของเราให้สมดุลอยู่เนือง ๆ นั้น(รวมถึงเลือดลมด้วย)จะทำให้ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน (ขอตัวอย่าง ยาบำรุงของหมอเส็งก็ใช้หลักการแบบนี้ ท่านเก่งสมุนไพรไทย ยาของท่านไปทำให้อวัยวะภายใน ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 มันทำงานดีขึ้น ทำให้คนที่ป่วยอาการดีขึ้น แต่ไม่ได้มุ่งไปที่การรักษาโรคใดโรคหนึ่ง) จะแตกต่างจากแพทย์แผนปัจจุบัน(ตะวันตก) กล่าวคือ ถ้าหมอตรวจพบว่า คุณเป็นโรคใดบ้าง ก็รักษาไปตามโรคที่ปรากฏ

หวังว่า ท่านที่เรียนดวงจีน จะตระหนักถึงอวัยวะซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 มากขึ้นนะครับว่า ทำไมทำนายอยู่เพียงแค่นี้

---------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------

3>>เรื่องถัดมาครับ คือมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำนายเกี่ยวกับสุขภาพ เรื่องของเรื่องก็คือ บางท่านอาจสงสัยว่า การมีสุขภาพที่ดีหรือไม่นั้น อยู่ที่ดวง หรือ อยู่ในกำมือของเรา (มันเริ่มจะเป็นประเด็นเหมือน 30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟันแล้ว)

ผมเองก็อยากจะตอบอย่างกระชับ ว่า "การทำนายสุขภาพนั้นเป็นการทำนายสุขภาพแบบก่อนกำเนิด(กล่าวคือ 60% ของสุขภาพ ถูกกำหนดมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์) รวมถึงอิทธิพลจากปัจจัยธาตุทั้ง 5 และชี่ทั้ง 6"
ส่วนสุขภาพหลังกำเนิด(อีก40%) อยู่ในกำมือท่าน...ยังไงยังไงก็ต้องดูแลนะครับ

หากท่านคิดว่า สุขภาพหลังกำเนิดอยู่ในมือท่าน 100% ก็ลองไปหาคนที่มีปัญหาสุขภาพตั้งแต่เกิด(เช่น หมอวินิจฉัยว่า ลิ้นหัวใจรั่ว) แล้วทำให้เขา(หรือเธอ)ผู้นั้นมีสุขภาพที่ดีได้เหมือนกับคนที่ไม่มีปัญหาสุขภาพมาตั้งแต่เกิด มันจะได้ไหมหนอ?

---------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------

4>>เรื่องสุดท้ายของเพจนี้ ผมขอแนะนำการดูแลสุขภาพอย่างง่าย ๆ นะครับ

<4.1> การนอน - ประเด็นสำคัญที่ต้องการสื่อถึงจะเป็นเรื่องของ Body Time, ในแต่ละวัน แม้ท่านจะนอนวันละ 7-8 ชม. แต่นอนไม่เป็นเวลา หรือ นอนดึก ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน สรุป คือ หากต้องการมีสุขภาพที่ดี ควรนอนแต่หัวค่ำ ตื่นเช้า(ดีกว่านอนดึกตื่นสาย)เวลาที่ดี คือ 3-4 ทุ่ม(ช้าสุด 5 ทุ่ม ใครรู้ตัวว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ยิ่งต้องนอนก่อน 5 ทุ่ม ช่วงเวลา子 และ 午มีส่วนเกี่ยวข้องกับหัวใจ เป็นต้น)

ดูเพิ่มเติม - ข้อดีการนอนหัวค่ำ และ ข้อเสียของการนอนดึก


<4.2> การขับถ่าย - หากใครที่นึกถึงการบำรุงร่างกายด้วยการกินแล้วละก็ ขอบอกเลยว่า
ยังมีความสำคัญรองลงมาจากการขับถ่ายที่ดีเสียอีก

ช่วงเวลาที่ดีสำหรับการขับถ่าย คือ เวลา 卯 (0500-0700น.) มิฉะนั้น ร่างกายจะดูดซึมของเสียต่าง ๆ เข้าสู่ ระบบเลือดไปเลี้ยงร่างกาย นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า เกิดไขมันที่เสีย ๆ ในช่วงเวลานี้เราควรออกกำลังกายเพื่อให้ลำไส้ใหญ่ขยับตัวและเพิ่มศักยภาพในการขับเคลื่อนของเสีย เป็นเวลาที่เหมาะกับการดีท็อกซ์อีกด้วย


<4.3> การออกกำลังกาย - ถ้าคิดแบบตะวันตก ก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ร่างกายเคลื่อนไหว ยิ่งได้เคลื่อนไหวทุกส่วนยิ่งดี
แล้วถ้าคิดแบบตะวันออกล่ะ ลองอ่านบทความ"การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ"ต่อไปนี้

เมื่อผมถามผู้ป่วยว่า "คุณออกกำลังกายทุกวันหรือไม่" หลาย ๆ คนตอบว่า "เพราะต้องเดินไปขึ้นรถเมล์ทุกวัน" ขณะที่คุณเดิน ไปขึ้นรถเมล์ด้วยจิตใจที่เร่งรีบ กลัวไปสาย กลัวขึ้นรถเมล์ไม่ทัน นี่ไม่ใช่การออกกำลังกาย แต่เป็นการใช้แรง การออกกำลังกาย จิตใจต้องผ่อนคลาย ไม่กังวลอะไร ดำเนินไปอย่างอารมณ์ดีมีความสุข การออกกำลังกายช่วยให้เลือดไหลเวียน ดูดซึมออกซิเจนมากขึ้น ขจัดความเครียด เพิ่มพลัง ส่วนการใช้แรงนั้นเพิ่มค่า Co2และสิ้นเปลืองพลังงาน เราควรอกกำลังกายให้ได้วันละ 20-30 นาทีอาจออกกำลังกายตามวิธีที่คนเองชอบ แต่การเดินเร็วเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและประหยัดที่สุด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้สารพิษถูกขับออกทางผิวหนัง และจะดีที่สุดหากเดินเร็วอย่างสบาย ๆ ใต้แสงแดดจัด
แสงแดดเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์,พืชและสิ่งมีชีวิตทั้งปวง และเป็นแหล่งที่มาของรังสีอินฟราเรดและรังสีอัลตรไวโอเลต ดังนั้น ขณะที่พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและยามพลบค่ำที่พระอาทิตย์ตกดิน จะเป็นช่วงที่รังสีอินฟราเรดแรงที่สุด สามารถกระตุ้นให้ร่างกายรักษาตัวเอง ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ในเวลานี้เหมาะอย่างยิ่งกับการเดินเล่นและออกกำลังกายเบา ๆ ราว ครี่งชั่วโมง
ยามเที่ยงเป็นช่วงที่รังสีอัลตราไวโอเลตแรงที่สุด การเดินเร็ว 20-30 นาทีในตอนนี้ จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้โจมตีเชื้อโรคต่าง ๆ พลังงานของร่างกายจะเกิดสมดุลและกลมกลืน โดยอาศัยสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ถ้ากังวลว่าผิวจะเกรียมแดด ก็อาจสวมหมวกปีกกว้างก็ได้
ขณะเดินเร็ว ๆ ถ้าจะให้ดี ควรเลือกเดินในสวนสาธารณะ เพราะในสวนจะมีโต๊็ะม้าหิน เดินเร็ว 5 นาทีและนั่งพัก 5 นาที การเดินเร็ว 5 นาทีด้วยจิตใจที่เบิกบานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน เมือนั่งพัก 5 นาที ก็จะทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ เมื่อนั่งพักอาจหัวเราะดัง ๆ 50-60 ครั้ง จะช่วยให้จิตใจเบิกบาน โรคภัยจะหายเร็วขึ้น

จากหนังสือ "ธรรมชาติช่วยชีวิต" (เขียนโดย Dr.Tom Wu)


<4.4> การกิน - เป็นเรื่องที่พูดถึงกันมากที่สุดในแง่ของการดูแลสุขภาพ มีแนวคิดมากมายหลายหลาก ไม่ว่าจะเป็น
- อาหารหลัก 5 หมู่, ทานมังสวิรัติ, ชีวจิต เป็นต้น...แต่ที่ทำให้เรา ชวน งง ก็คือ กระแสข้อมูลข่าวสารของอาหารอะไรสักอย่าง บางกระแสก็บอกว่า "ดี" บางกระแสก็ว่า "ไม่ดี" เช่น การทานไข่ ,น้ำมันมะพร้าว, อาหาร GMO ,ถั่วเหลือง(แต่ถ้าผ่านการหมักแล้วละก็ ดีแน่ ๆ...ฟันธง! เช่น ถั่วหมัก, ถั่วเน่า, เต้าเจี้ยว)

สำหรับเรื่องของกินเนี่ยนะ ถ้ายิ่งมีโรคภัยไข้เจ็บอย่าง มะเร็ง,เบาหวาน ถ้าจะให้ผมแนะนำ จำสูตรเดียว
"หลีกเลี่ยงอาหาร ผัด, ทอด, ปิ้ง, ย่าง" (พูดง่าย...ทำยาก อย่างน้อยก็เริ่มจากการลดปริมาณการทานอาหารประเภทนี้ลง)

สุดท้ายนี้ ผมขอฝากไว้ คือ ขอให้ท่านศึกษาข้อมูลข่าวสารให้ดี ๆ โดยเฉพาะอาหารที่เราทานบ่อย
(อาหารบางอย่างก็หวังผลทางการค้ามากกว่าที่เขาโฆษณาชวนเชื่อว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนีเสียอีก!)

---------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------